นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล ติดตามผลการทำประมงด้วยเครื่องมืออวนลากคู่ ภายหลังสิ้นสุดมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในช่วงฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน (มาตรการปิดอ่าว) โดยพบว่าเรือประมงที่ใช้อวนลากคู่ในพื้นที่ทะเลหน้าจังหวัดชุมพรถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่างจากชายฝั่งประมาณ 15 ไมล์ทะเล และบริเวณที่มีความลึกประมาณ 29 เมตร สามารถจับสัตว์น้ำได้รวมทั้งสิ้น 25,720 กิโลกรัม หรือคิดเป็นอัตราการจับ 416.98 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนการปิดอ่าว ซึ่งมีอัตราการจับอยู่ที่ 145.05 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
โดยสัตว์น้ำที่จับได้ แบ่งเป็นกลุ่มสัตว์น้ำเศรษฐกิจ 8,720 กิโลกรัม และกลุ่มปลาเป็ด 17,000 กิโลกรัม คิดเป็นสัดส่วน 34 ต่อ 66
สำหรับผลการประเมินทางวิชาการ พบว่าอัตราการจับสัตว์น้ำจากเรืออวนลากคู่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการใช้มาตรการปิดอ่าว สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของมาตรการในการฟื้นฟูและดูแลทรัพยากรสัตว์น้ำ ทั้งนี้ กรมประมงจะดำเนินการติดตามสถานการณ์และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในการปรับใช้มาตรการบริหารจัดการที่เหมาะสมในอนาคต เพื่อให้การดูแลทรัพยากรสัตว์น้ำเกิดผลสำเร็จอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน