วิป 3 ฝ่ายตกลงเวลาอภิปรายร่างงบฯ 69 รวม 4 วัน  41 ชั่วโมง

การประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือวิปสภาฯ โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ร่วมกับตัวแทนของวิปฝ่ายรัฐบาล เช่น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะตัวแทนรัฐบาล นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย และวิปฝ่ายค้าน อาทิ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เพื่อพิจารณาถึงกรอบการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ ระหว่างวันที่ 28 – 31 พฤษภาคม

โดยนายวิสุทธิ์ บอกหลังการหารือว่า ได้รับความร่วมมือจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล โดยไม่มีความขัดแย้งเรื่องการจัดสรรเวลา  ทั้งนี้ในการประชุมวันที่ 28 พฤษภาคม จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 2 ฉบับ และร่างพระราชกำหนด จำนวน 2 ฉบับ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณารวม 8 ชั่วโมง และเสร็จไม่เกิน เวลา 17.00 น.  ต่อจากนั้นในวันที่ 29 – 31 พฤษภาคมนั้น จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 โดยจะใช้เวลา 4 วัน 41 ชั่วโมง แบ่งเป็น ฝ่ายค้าน 20 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 20 ชั่วโมง และของประธาน 1 ชั่วโมง แต่ละวันจะเลิกไม่เกิน 22.00 น. และแต่ละฝ่ายจะช่วยควบคุมเวลาไม่ให้มีปัญหา เพื่อให้การพิจารณางบประมาณเป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งนี้การประชุมสมัยวิสามัญจะไม่มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร แน่นอน 

การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯจะราบรื่นไม่มีปัญหา พรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นชอบตามนั้น ซึ่งในที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายวันนี้ทั้ง 3 ฝ่ายจะร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้งบประมาณผ่านไป ต่างคนต่างทำหน้าที่และเป็นข้อตกลงด้วยดี ถือเป็นนิมิตหมายในการทำงานร่วมกัน แม้แต่ตัวแทนพรรคภูมิใจไทยที่มาร่วมประชุมในวันนี้ก็ยืนยัน ไม่มีการงดออกเสียง เพราะงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญและเป็นภาษีของปีน้องประชาชนขอให้ช่วยกันติดตามช่วยกันดูแลเงินของประเทศชาติบ้านเมือง

ส่วนงบปรับปรุงสภาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น นายวิสุทธิ์ บอกว่า สภาเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้งบประมาณ ดังนั้นสิ่งไหนที่จะเป็นต้องทำก็ต้องทำ สิ่งไหนที่ไม่จำเป็นก็ต้องตัด  ไม่ใช่แค่เฉพาะฝ่ายค้าน แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองให้ดีที่สุด

ด้านนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะตัวแทนรัฐบาล บอกในส่วนของคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเรื่องการเตรียมความพร้อม โดยนายกรัฐมนตรี ก็จะมาเสนอ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในช่วงเย็นวันที่ 28 พฤษภาคม หลังจากที่มีการพิจารณาร่าง พ.ร.ก.2 ฉบับและร่าง พ.ร.บ. 1 ฉบับ  โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ยืนยันความพร้อมที่จะตอบข้อซักถามของสมาชิกและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้ทำความเข้าใจถึงสาระของเม็ดเงินที่เสนอ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเรื่องของการใช้เงิน ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประชาชนด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้  และขณะนี้กรรมาธิการ ก็ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณอยู่แล้ว โดยได้ขอความร่วมมือการใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่า ซึ่งคณะรัฐมนตรีก็จะสแตนบายพร้อมชี้แจง ตั้งแต่วันที่ 28-31 พฤษภาคม

ขณะที่การลงมตินั้น นางมนพร บอกว่า นายกรัฐมนตรีได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคแล้วและได้รับคำยืนยันว่า ให้ความเห็นชอบในการพิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ  ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นข้อกังวลและไม่ได้เป็นไปตามสื่อที่ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่เห็นชอบ  ทั้งนี้เมื่อวานที่ผ่านมา (20 พ.ค.) ส่วนตัว นางมนพร ก็นั่งทานข้าวด้วยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังได้สอบถามหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และได้รับคำยืนยัน ว่ามีความพร้อม เพราะเป็นพรรครัฐบาล ต้องให้ความเห็นชอบเรื่องของการพิจารณางบประมาณ  ดังนั้นขออย่าเชื่อข่าวลือ ซึ่งจะร่วมพิจารณาตั้งแต่ต้นและจะตั้งกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 72 คนในการพิจารณาวาระที่ 2-3 ต่อไป

นางมนพร ยังยืนยันด้วยว่า ในช่วงเปิดสมัยประชุมวิสามัญนี้ ไม่มีการสอดไส้พิจารณา ร่าง พ.ร.บ. เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และได้บอกวิปแล้วว่า กฎหมายดังกล่าวอยู่ในวาระการประชุมสมัยสามัญ ก็ต้องรอเปิดสมัยประชุมสามัญก่อน

ด้านนายปกรณ์วุฒิ บอกถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 เชื่อว่า จะลงมติในวาระแรก ในวันที่ 31 พฤษภาคม ไม่เกินเวลา 18.00 น.  ทั้งนี้กรอบเวลาที่กำหนดให้นั้น เท่ากับเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้พิจารณาในเนื้อหาสาระอย่างเต็มที่  เบื้องต้นเชื่อว่า จะไม่มีการประท้วงในเนื้อหามากนักและการพิจารณาจะราบรื่น  ส่วนการจัดสรรเวลาให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น ได้หารือเบื้องต้นแล้ว สามารถบริหารจัดการได้  ขณะที่ในการเตรียมความพร้อมของ สส.พรรคประชาชน นั้น เบื้องต้นอาจมีผู้อภิปรายจำนวนมาก เพื่อเน้นการอภิปรายที่หลากหลายประเด็น

ฝ่ายค้านยืนยันการทำงานว่าจะตรวจสอบเต็มที่ ไม่ว่าฝ่ายไหน ส่วนงบประมาณเพื่อปรับปรุงรัฐสภาที่เป็นประเด็นวิจารณ์กันก่อนหน้านี้ ส่วนตัวเชื่อว่า สส. จะรักษาเกียรติยศศักดิ์ศรีในที่ทำงาน จะตรวจสอบเต็มที่แน่นอนไม่ให้ถูกครหาจากประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง