“รัฐบาล” ยืนหยัดทำหน้าที่ปกป้องระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา เป็นสิทธิในการแสดงออกตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่ในส่วนของเนื้อหาการปลุกระดมและปราศรัยของแกนนำผู้ชุมนุมนั้น ในยุคที่ประเทศไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมา 93 ปีของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นั้น  เห็นเป็นทฤษฎีของประเทศไทยแล้วว่า  การปฏิวัติรัฐประหารไม่เคยเป็นคำตอบที่ “ใช่” มาเลยแม้แต่ครั้งเดียว  แต่ละครั้งมีแต่จะฉุดรั้งให้ประเทศถอยหลังลงคลองมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเชื่อว่าหากมีการปกครองด้วยระบอบรัฐประหารอีก ไทยจากประเทศ “กำลังพัฒนา“ คงจะถูกปรับไปเป็นประเทศ “ด้อยพัฒนา” ในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน

นายจิรายุ กล่าวอีกว่าแกนนำหลายคนที่ เรียกร้องหารถถังบนเวที เป็นสิ่งที่คนไทยและประเทศไทย ไม่อาจยอมรับได้ แกนนำหลายคน ในอดีตปากเคยบอกว่าขอต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นอย่างไร

จึงขอเรียกร้องให้คนไทยทั้งประเทศ ร่วมกันต่อต้านแนวทางดังกล่าวและรู้ทันบุคคลเหล่านี้ ที่แสวงหาอำนาจจากการปฏิวัติ ยึดอำนาจมาตลอด 20 ปี ที่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ต่างเจ็บปวดและเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้จากการเรียกร้องของคนกลุ่มเดิมๆ

รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน นอกจากมีหน้าที่จะต้องปกป้องอธิปไตยของประเทศแล้วยังมีหน้าที่หลักสำคัญที่จะต้องปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชนคนไทยทุกคน   เราจะรวมใจกันแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะไม่ สนับสนุนการทำปฏิวัติ รัฐประหาร และจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้อีก

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่าจากเนื้อหา การปราศรัยเห็นอย่างชัดเจนว่า แกนนำพร้อมที่จะดึงประเทศถอยหลังลงคลองโดยไม่สนใจประชาชนกว่า 70 ล้านคน จะเป็นจะตายหรือจะอยู่กันอย่างไร ท่ามกลางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศ  ในภูมิภาคและระดับโลกที่รุมเร้า

อีกทั้งการปราศรัยทำให้เห็นความเชื่อมโยงของแกนนำ ที่สอดรับกับผู้นำกัมพูชา ที่ยุยงปลุกปั่นและก้าวล่วง แทรกแซงคนไทยและประเทศไทยมาตลอด  ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ว่าจะสามารถยิงขีปนาวุธได้ถึงกรุงเทพมหานคร  การกล่าวว่ารัฐบาลปฏิวัติของไทยสามารถทำงานร่วมกันกับตนเองได้โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายได้อย่างราบรื่น 
ซึ่งล้วนแล้วแต่สอดรับกับคำปราศรัยและแนวทางที่กลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมมีความประสงค์จะโค่นล้มรัฐบาลหรือให้มีการปฏิวัติรัฐประหารอันนำไปสู่การเอื้อประโยชน์และการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ รัฐบาลจะยืนหยัดในการธำรงไว้ ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและขอเรียกร้องให้องค์กรต่างๆ ที่ร่วมกันต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารได้จับมือประสานกันรณรงค์เพื่อต่อต้านกลุ่มบุคคล ที่เรียกร้องให้ทำการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อไม่ให้ประเทศไทยบอบช้ำไปมากกว่านี้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง