พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 และพลโท ยุ้น วิน ส่วย ผู้บัญชาการ สำนักปฏิบัติการพิเศษที่ 4 ฝ่ายเมียนมา ร่วมกันเปิดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย–เมียนมา (Regional Border Committee หรือ RBC) ครั้งที่ 37 ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมพลอยไพลิน กรีนเลค รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 2–4 กรกฎาคม 2568 เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศไทยและเมียนมา เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางบรรยากาศแห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
พลโท กิตติพงษ์ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ฝ่ายไทยได้เสนอประเด็นสำคัญเพื่อหารือร่วมกัน ได้แก่ ปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ซึ่งไหลผ่านพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายอันเนื่องมาจากการทำเหมืองแร่ของกลุ่มชนกลุ่มน้อยที่อยู่ในพื้นที่แนวชายแดน และมีการปล่อยน้ำเสียที่ปนเปื้อนโลหะหนัก เช่น สารหนูและสารตะกั่ว ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสุขภาพของประชาชนทั้งสองฝั่ง รวมถึงปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ข้ามชาติที่ถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในโลกไซเบอร์ ซึ่งต้องการความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยและเมียนมา ในการสกัดกั้นและปราบปรามอย่างจริงจัง
โดยการประชุม RBC ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคง และการพัฒนาชายแดนร่วมกันในระยะยาว โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม ฝ่ายเมียนมาจะนำข้อเสนอของฝ่ายไทยที่เสนอต่อรัฐบาลเมียนมา กลับไปพิจารณาดำเนินการตามแนวทางที่ได้ตกลงร่วมกันต่อไป
ทางด้านนายนิรัตน์ เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ที่มีประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่อายได้รับผลกระทบ ว่าจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับประชาชนควบคู่กับการเจรจาระหว่างประเทศ โดยได้ตรวจเช็คคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่องและจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนให้พี่น้องประชาชนสามารถนำน้ำที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันมาตรวจด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันได้ส่งรถผลิตน้ำดื่มที่ได้มาตรฐานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ไปให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้
ได้มีการสำรวจโดยรอบว่ามีพื้นที่ใดนำน้ำกกมาผลิตน้ำประปาหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าไม่มี ส่วนการใช้น้ำในแม่น้ำกกมีการตรวจสอบแล้ว พบว่ามีการใช้น้ำในการเกษตรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และปริมาณสารปนเปื้อนเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ขณะเดียวกันในระหว่างที่รอการเจรจาระหว่างประเทศ ทางจังหวัดได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจแหล่งน้ำผิวดินและน้ำบาดาล เพื่อดำเนินการขุดเจาะแหล่งน้ำใหม่ให้ประชาชนได้ใช้ทดแทน
พล.อ. ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก รับการเยี่ยมคำนับจากคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย–เมียนมา ครั้งที่ 37 ที่กองบัญชาการกองทัพบก นำโดย พล.ท. กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ประธานคณะกรรมการฯ ฝ่ายไทย และ พล.ท. ยุ้น วิน ส่วย ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการพิเศษที่ 4 ประธานคณะกรรมการฯ ฝ่ายเมียนมา พร้อมคณะ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม RBC ครั้งที่ 37 ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อหารือและประสานการปฏิบัติร่วมกัน รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและพัฒนาความร่วมมือของทั้งสองประเทศ อันจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาความมั่นคงในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาอย่างยั่งยืน ซึ่งผลการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC (Regional Border Committee) เป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหาร ซึ่งเป็นการประชุมระดับกองทัพภาค หรือภูมิภาคทหารของทั้งสองประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ชายแดนที่เกิดขึ้นจริง สำหรับในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา จะจัดการประชุมอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี โดยสลับกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงและกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
พลเอก พงศ์เทพ แก้วไชโย ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประธานคณะกรรมการระดับสูง (High Level Committee : HLC) ไทย-เมียนมา รับการเยี่ยมคำนับจาก พลโท ยุ้น วิน ส่วย ประธาน RBC ไทย-เมียนมา และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) เมียนมา-ไทย โดยมี พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ประธาน RBC ไทย-เมียนมา และ พลตรี ธีรพันธุ์ ไตรพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน กรมกิจการชายแดนทหาร สำนักงานเลขานุการ HLC ไทย-เมียนมา นำคณะเข้าเยี่ยมคำนับ ณ ห้องรับรอง 62 กองบัญชาการกองทัพไทย ในโอกาสที่ฝ่ายเมียนมาเข้าร่วมการประชุม RBC ไทย-เมียนมา ครั้งที่ 37 ที่จังหวัดเชียงใหม่
ในการเยี่ยมคำนับครั้งนี้มีประเด็นที่สำคัญ อาทิ ความสัมพันธ์ทวิภาคี ความร่วมมือระหว่างกองทัพ การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การต่อต้านการก่อการร้าย กลุ่ม Call Center ในพื้นที่จังหวัด
ท่าขี้เหล็ก การแก้ไขปัญหาอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และสารปนเปื้อนในลำน้ำ
สำหรับการประชุม RBC ไทย-เมียนมา เป็นการดำเนินการตามกลไกปกติระหว่างกองทัพไทย–กองทัพเมียนมา มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารในการรักษาความสงบเรียบร้อย และการแก้ไขปัญหาความมั่นคง รวมทั้งปัญหาเฉพาะอื่นๆ ในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังคงมีการสู้รบในพื้นที่ใกล้แนวชายแดน ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง ปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของประชาชนของทั้งสองประเทศ
กองทัพไทยยึดมั่นในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง โดยให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงที่เกี่ยวกับกองทัพไทยกับกองทัพประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะด้านเมียนมา ซึ่งมีเส้นเขตแดนติดกันมากที่สุด มีความยาวถึง 2,401 กิโลเมตร จึงมีความจำเป็นที่ทั้งสองกองทัพจะดำรงไว้ ซึ่งความสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจ และเป็นการป้องกันปัญหาในพื้นที่ชายแดนที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง
ในระดับประเทศ