ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะรัฐมนตรีช่วย ได้แก่ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ และนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา รับฟังปัญหาอุทกภัย และการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี และเขื่อนพระราม 6 จ.พระนครศรีอยุธยา
เรื่องสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข คือ ระเบียบการบริหารการระบายน้ำที่ยังต้องขออนุญาตหลายขั้นตอนจากหน่วยงานกลาง ทำให้ล่าช้าและไม่ทันต่อสถานการณ์ โดยเตรียมหารือกับนายกรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงให้คล่องตัวและสอดคล้องกับสภาพจริง
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่และทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อลดความเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมสั่งการให้กรมชลประทานเร่งกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในทุกพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน หากพบว่ายังมีอุปสรรคจะต้องมีผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้ ในช่วงฤดูแล้ง ได้มอบหมายให้กรมชลประทานประสานกับกรมทหารช่างเตรียมงบประมาณขุดลอกลำน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ล่วงหน้า
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน เขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบายน้ำที่ 567 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนด้วยการระบายเข้าคลองระพีพัฒน์ เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ โดยเฉพาะชุมชนวัดสะตือ ต.ท่าหลวง และพื้นที่ตลาดเทศบาลตำบลท่าเรือ