นายกฯ ยืนยันพร้อมรับมือชายแดนไทย-กัมพูชา แม้ตามเสด็จฯ ไปจีน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการมอบหมายการดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงที่ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13–17 พฤศจิกายนนี้ ว่าไม่มีปัญหา ได้มีการเปิดช่องทางการสื่อสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนหลายคนมีความกังวลพื้นที่ชายแดนและเมื่อคืนมีเสียงดังคล้ายระเบิดบริเวณบ้านหนองจาน – หนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว  นายกฯ ระบุว่าจะทำให้ดีที่สุด ยืนยันเราไม่มีความตั้งใจที่จะไปรุกรานใคร แต่เราก็ไม่ยอมให้ใครมาคุกคามอธิปไตยของเรา จะไม่ยอมให้พี่น้องประชาชน หรือแม้กระทั่งทหารต้องประสบภัยอันตราย

สำหรับกรณีกัมพูชาพยายามใช้ปืนเล็กก่อกวนพื้นที่ชายแดนนั้น นายกฯ ระบุว่า ทางทหารมียุทธวิธี ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

พร้อมเปิดเผยอีกว่า หากมีการอพยพประชาชนเกิดขึ้น ได้เตรียมงบประมาณในการอพยพไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งขณะนี้ตนเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยด้วย ครั้งที่แล้วไม่ได้เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่ก็ได้ดำเนินการด้านศูนย์อพยพในเขตอีสานใต้ ซึ่งตนและ สส. เข้าไปช่วยกันประสานงาน สามารถดูแลพี่น้องประชาชนที่ย้ายเข้ามาในส่วนอพยพได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังได้ธารน้ำใจจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ที่หลั่งไหลเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งก็จะใช้รูปแบบนี้ในการดูแลพี่น้องประชาชนหากมีความจำเป็น  ยืนยันให้ทหารมีอำนาจตัดสินใจตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ส่วนในพื้นที่ข้อต่อชายแดนไทยที่ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่เปราะบางได้มีการสั่งการผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ซึ่งมีกรอบดำเนินการอยู่แล้ว จากการประชุมในแต่ละครั้งจะมีการรับฟังรายงาน ความพร้อม ให้การสนับสนุนในสิ่งที่ทางฝ่ายกองทัพร้องขอมาและรับฟังแผนปฏิบัติงานที่จะต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และความเหมาะสม ขอยืนยันว่ากองทัพมีความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์และปกป้องแผ่นดินอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน

ส่วนที่นายฮุน มาเน็ต โพสต์กล่าวอ้างว่ามีทหารไทยมีการยิงใส่พลเรือนของกัมพูชา จนบาดเจ็บและเสียชีวิต นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้อ่านแล้ว ซึ่งเราก็มีแนวทางของเรา

สำหรับกรณีที่พรรคประชาชน ต้องการให้เปิดสภาวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ากำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงานในส่วนของสภาและรัฐบาล ที่รัฐสภาเองก็มีการเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุมวิสามัญเพื่อให้วาระ 2 และ 3 เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นไปตาม MOA ที่พรรคภูมิใจไทยไว้มีให้กับพรรคประชาชน ขอย้ำว่า MOA เป็นข้อผูกมัดของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ซึ่งจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ส่วนรายละเอียดจะต้องไปถามนายภราดรเอง

ส่วนเมื่อวานที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งในภาพยืนร่วมกับนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร จำนง แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล  และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อยู่ในภาพด้วยนั้น มองว่า พวกเขาเคยอยู่พรรคชาติไทยพัฒนา อาจเป็นการรียูเนี่ยน ซึ่งพวกเขาเป็นคนในรุ่นเดียวกัน ส่วนในอนาคตจะมีโอกาสมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น หากมีอะไรเกิดขึ้นพรรคภูมิใจไทยก็พร้อม ทุกคนมีคุณภาพ มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ ไม่ว่าพรรคอะไรก็ต้องเปิดกว้าง ซึ่งก็ใกล้เลือกตั้งเข้าไปทุกที ทุกพรรคก็ต้องมีการตื่นตัวมีความพร้อม ถือเป็นเรื่องปกติ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง