“สาธารณสุข” เตือนฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานเริ่มส่งผลต่อสุขภาพประชาชน “เกษตร” Kick Off ปฏิบัติการบรรเทาฝุ่น PM2.5 ดัดแปรอากาศทั่วประเทศ ลดผลกระทบต่อสุขภาพ

จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในหลายพื้นที่ และเริ่มส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และเตรียมมาตรการดูแลผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ การแจ้งเตือน การออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ และการสนับสนุนหน้ากากอนามัยให้กับประชาชน เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปีต่อเนื่องจนถึงต้นปี จึงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ที่อาจเจ็บป่วยหรือได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 รุนแรงกว่าประชาชนทั่วไป ตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai AirBKK Life D หรือ เช็คฝุ่น และปฏิบัติตนตามคำแนะนำตามค่าสีฝุ่น

ค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม (37.6 – 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) กลุ่มเสี่ยงให้จำกัดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก หากจำเป็นต้องออกนอกอาคารให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นทุกครั้ง สังเกตอาการผิดปกติ โดยประเมินอาการและรับคำแนะนำเบื้องต้นผ่าน 4HealthPM2.5 หรือคลินิกมลพิษออนไลน์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ อยู่ในอาคารหรือห้องปลอดฝุ่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น และลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นในบ้าน แต่หากค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง (75.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป) ขอให้ประชาชนทุกคนงดกิจกรรมกลางแจ้ง

กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ ได้แก่

1. การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ โดยติดตามสถานการณ์และประชาสัมพันธ์เชิงรุก เน้นการสื่อสารและแจ้งเตือนผ่านระบบดิจิทัล เช่น Platform หมอพร้อม SMART อสม.

2. การลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยเฝ้าระวังและติดตามผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจาก PM2.5 จัดทำห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการและพื้นที่เสี่ยง และสนับสนุน “มุ้งสู้ฝุ่น” รวมถึงพิจารณาใช้มาตรการ Work From Home สำหรับกลุ่มเปราะบางเมื่อค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

3. การจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยขยายเครือข่ายบริการดูแลสุขภาพให้ครอบคลุม ทั้งคลินิกมลพิษทางอากาศ คลินิกเวชกรรมสิ่งแวดล้อม ให้คำปรึกษาคลินิกมลพิษออนไลน์ จัดระบบนัดหมายคลินิกมลพิษผ่านระบบหมอพร้อม และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่/ทีมปฏิบัติการดูแลสุขภาพกลุ่มเปราะบาง เช่น ชุมชน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ โรงเรียนประจำ 

4. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยหากสถานการณ์รุนแรงให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในทุกระดับ และส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ใช้ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ในการควบคุมต้นกำเนิดฝุ่น

ขณะที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ Kick Off ภารกิจบรรเทาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประจำปีงบประมาณ 2569 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ณ หน่วยดัดแปรสภาพอากาศ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับมือและแก้ไขสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

จากสาเหตุการเผาป่า การก่อสร้าง การคมนาคม การทำอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงได้ปฏิบัติการภารกิจบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพื่อมุ่งดูแลสุขภาพของประชาชนให้ดีขึ้นและยังเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ ด้วยการดัดแปรสภาพอากาศด้วยเทคนิคลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผัน การโปรยน้ำแข็งแห้งเพื่อระบายฝุ่นละออง และการปฏิบัติการก่อเมฆเพื่อช่วยดูดซับฝุ่นละออง พร้อมน้อมนำศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ในการปฏิบัติการ ซึ่งจะทำให้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศลดลง และทำให้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางและระดับดีตามลำดับ

ในปีงบประมาณ 2569 ได้ตั้งหน่วยดัดแปรสภาพอากาศเพื่อปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM2.5 ดังนี้

1. หน่วยฯ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยฯ จ.ระยอง วางแผนปฏิบัติการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ใช้เครื่องบิน จำนวน 5 ลำ โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

2. หน่วยฯ จ.ขอนแก่น วางแผนปฏิบัติการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เครื่องบิน จำนวน 2 ลำ เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2569 เป็นต้นไป

3. หน่วยฯ จ.ตาก และหน่วยฯ จ.พิษณุโลก วางแผนปฏิบัติการในพื้นที่ภาคเหนือ ใช้เครื่องบิน จำนวน 2 ลำ เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไป

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย และภาคเอกชน เดินหน้าพัฒนาระบบ “แจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5” ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลคุณภาพอากาศที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเข้าถึงได้ทันที ผ่านระบบ Cell Broadcast ส่งตรงถึงโทรศัพท์มือถือแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม ซึ่งข้อมูลการแจ้งเตือนประกอบด้วย รายงานสถานการณ์และระดับความรุนแรงของค่าฝุ่น PM2.5 แนวโน้มสถานการณ์ในพื้นที่ และคำแนะนำในการปฏิบัติตัวของประชาชน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางสุขภาพ

นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติการตรวจจับและห้ามใช้รถควันดำ ซึ่งเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก และกองบังคับการตำรวจจราจร ในพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ของทุกปี โดยสาเหตุหลักที่ต้องคุมเข้ม กรุงเทพมหานคร เป็น “เขตควบคุมมลพิษ” เนื่องมาจากมีการใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลกว่า 3 ล้านคัน เป็นสัดส่วนต้นเหตุ PM2.5 ถึง 57%

ส่วนแผนปฏิบัติการ 90 วันอันตราย (1 ธ.ค. 68 – 28 ก.พ. 69) จะจัดจุดตรวจริมถนนในกรุงเทพมหานคร วันละ 14 ชุด ชุดตรวจของกรมการขนส่งทางบกในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันละ 16 ชุด ต่างจังหวัดตรวจเข้มในเมืองหลัก โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับขนส่งจังหวัด ตำรวจ ท้องถิ่น หากตรวจพบรถปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐานเจ้าพนักงานจราจรจะสั่งระงับการใช้รถชั่วคราว และให้ไปปรับปรุงแก้ไขภายใน 15 วัน (จากเดิม 30 วัน) หากฝ่าฝืนคำสั่ง มีโทษปรับตามกฎหมายทั้ง พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก และอาจถูกสั่งระงับใช้รถเด็ดขาด สำหรับรถที่ยังไม่แก้ไขภายในระยะเวลาตามกฎหมายกำหนด จะถูกดำเนินการปรับเป็นพินัย ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะของพนักงานเจ้าหน้าที่ ค่าปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535

อีกทั้ง กรมควบคุมมลพิษ สภาอุตสาหกรรมและเอกชน ได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชน “จัดโปร สู้ฝุ่น” ลด PM2.5 ร่วมเปิดบริการตรวจเช็กเครื่องยนต์ฟรีกว่า 55 รายการ ส่วนลดค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่ ค่าแรง สูงสุด 50% หากลงทะเบียน Green List Plus กับ กทม.จะได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม เช่น จอดรถฟรีในห้าง (Central, The Mall, Lotus) คูปองค่าโดยสาร BTS ส่วนลดซื้อ พ.ร.บ./ประกันภัย ผ่าน AIS         

สำหรับแนวทางแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ค่าฝุ่นละอองในอากาศระบุว่าอัตราการถ่ายเทอากาศจะแย่ลงในวันที่ 5–7 ธันวาคม 2568 และจะดีขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ในกรุงเทพมหานคร มีปริมาณรถยนต์จำนวนมาก และการเผาในพื้นที่ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่พบจุดความร้อนแล้ว 790 จุด และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในเดือนหน้า กทม. ได้เตรียมมาตรการ “ฝ่าฝุ่น 3 วัน” ช่วงวันที่ 5–7 ธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่อัตราการระบายอากาศต่ำ รวมถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ซึ่งมีงานเปิดซีเกมส์ และวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ที่อากาศจะดีขึ้น เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น ในวันที่ 4 ธันวาคม 2568 กทม. จึงขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่สามารถ Work from Home ได้ปรับรูปแบบการทำงาน โดยไม่บังคับ

ส่วนการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เชิญชวนคนไทยมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ดังนี้

– ติดตามคุณภาพอากาศ (AQI) อย่างสม่ำเสมอ: ก่อนออกจากบ้านหรือเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ

– เปลี่ยนสถานที่และรูปแบบออกกำลังกายในวันที่ฝุ่นสูง: เช่น เต้นแอโรบิก โยคะ พิลาทิส และ
เวทเทรนนิ่ง ในบ้าน/อาคาร หรือเปลี่ยนมาออกกำลังกายในสวนสาธารณะ เพราะต้นไม้จะช่วยกรองฝุ่นได้
ในระดับหนึ่ง

– ป้องกันตัวเองจากฝุ่นในอากาศ: สวมใส่หน้ากากป้องกัน เช่น หน้ากาก N95 หรือ หน้ากาก KF94 เพื่อช่วยลดการหายใจเอาฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ปอด รวมถึงพกน้ำดื่มติดตัว ดื่มหรือจิบน้ำบ่อย ๆ ตลอดวัน เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย

– เลือกทานอาหารต้านฝุ่น: เช่น แครอท ฟักทอง มันหวาน มีวิตามินเอ มีส่วนช่วยการทำงานของปอด

– ปรับพฤติกรรมในที่ทำงานหรือที่เรียน: ใช้เครื่องฟอกอากาศ ลดการสะสมของฝุ่นภายในอาคาร หรือติดตั้งเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ

– พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่ดีจะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูและรับมือกับมลภาวะต่าง ๆ
ได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ผู้มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นติดตัวเสมอ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีอาการรุนแรงให้รีบไปพบแพทย์ (แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย หายใจ มีเสียงหวีด) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมอนามัย 1478 หรือ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ข่าวที่เกี่ยวข้อง