สธ. ดูแลสุขภาพจิตใจและเฝ้าระวังโรคติดต่อในศูนย์พักพิงชายแดนไทย-กัมพูชา

นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สธ.มีสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงปิดโรงพยาบาล 12 แห่ง และ รพ.สต. 205 แห่ง และมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเป็น 690 ราย 

ขณะนี้มีการเปิดศูนย์พักพิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันมีทั้งหมด 970 จุด ผู้เข้าพักรวม 263,105 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 68,314 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก 0 – 5 ปี รวมถึงกลุ่มหญิงตั้งครรภ์จำนวน 302 ราย ได้จัดให้มีการคัดกรองสุขภาพทุกรายและติดตามตามอายุครรภ์อย่างใกล้ชิด หากพบภาวะเสี่ยงจะส่งต่อโรงพยาบาลทันที เพื่อให้ทั้งแม่และทารกปลอดภัย

สำหรับการดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงขณะนี้ มีการจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมุ่งเน้น 2 ส่วนสำคัญ คือ การเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ เนื่องจากมีประชาชนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก โดยเริ่มมีรายงานพบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคระบบทางเดินอาหารเพิ่มขึ้นในบางจุด ซึ่งทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคยังสามารถควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดได้ 

ส่วนการดูแลสุขภาพจิต โดยจัดระบบคัดกรองชิงรุกด้วยแบบประเมินมาตรฐาน เพื่อค้นหาผู้ที่มีความเครียดและมีความเสี่ยงทำร้ายตนเอง จากการคัดกรองไปแล้ว 183,104 ราย พบเครียดสูง 1,798 ราย และเสี่ยงทำร้ายตนเอง 252 ราย ทุกรายได้รับการปฐมพยาบาลทางจิตใจ ดูแลตามกระบวนการและติดตามอย่างต่อเนื่องจนกว่าอาการจะดีขึ้น ส่วนบุคลากร เบื้องต้นคัดกรองสุขภาพจิตแล้ว 239 ราย ยังไม่พบมีปัญหา นอกจากนี้ ยังมีแนวทางดูแลเฉพาะกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจระยะยาวด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง