สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เปิดเผย GDP ภาคการเกษตรของไทยปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 3.3

นายพีรพันธ์ คอทอง รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจและความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรของไทยที่ต้องเผชิญกับ 5 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ มาตรการการกีดกันทางการค้าและมาตรฐานสินค้ารูปแบบใหม่ สภาพอากาศแปรปรวนและภัยพิบัติธรรมชาติ การเติบโตสีเขียว และโครงสร้างประชากรสูงวัยที่มีมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตรด้วยนโยบาย ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ผ่านกลไกลการสร้างรายได้ สร้างตลาด และสร้างโอกาส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและผลักดันให้ภาคการเกษตรไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

โดยภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2568 ของไทย(GDP)ในภาพรวมมีการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (2567) ซึ่งในภาพรวมมีปัจจัยสนับสนุนจาก ปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก ประกอบกับสภาพอากาศเอื้ออำนวย ไม่ประสบภัยแล้งรุนแรง นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการฟาร์มที่ดีขึ้น รวมถึงนโยบายจากภาครัฐที่ได้มีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการส่งเสริมและบริหารจัดการได้ดีขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันประเทศไทยยังต้องเผชิญกับภัยพิบัติในหลายช่วง ไม่ว่าจะเป็นพายุวิภาและคาจิกิ ทำให้ผลผลิตเกษตรได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่เข้มงวด นโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ความขัดแย้งระหว่างประเทศและเงินบาทแข็งค่าซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยในสาขาพืช สาขาปศุสัตว์ สาขาการบริการทางการเกษตรและสาขาป่าไม้มีการขยายตัว ในขณะที่สาขาการประมงที่ยังคงหดตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง