นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดโครงการ Kick off One Region-One Province-One Hospital : หนึ่งเขตสุขภาพ หนึ่งจังหวัด หนึ่งโรงพยาบาล ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส ว่า นโยบายดังกล่าวเป็นแนวทางสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขในการบริหารจัดการทรัพยากรด้านสุขภาพให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมุ่งให้โรงพยาบาลในแต่ละเขตสุขภาพมีทิศทางการดูแลประชาชนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
การจัดกิจกรรม Kick Off ที่จังหวัดนราธิวาส เนื่องจากมีความพร้อมในหลายด้าน และสามารถขับเคลื่อนนโยบายให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการบริหารจัดการ การใช้ทรัพยากรร่วมกัน และการทำงานเชื่อมโยงระหว่างโรงพยาบาลขนาดใหญ่และโรงพยาบาลชุมชน
โครงการดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงขึ้น โดยมีการใช้ทรัพยากรร่วมกันทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เครื่องมือ และสถานที่ เช่น การใช้ห้องผ่าตัดและหอผู้ป่วยวิกฤตร่วมกัน รวมถึงการสนับสนุนแพทย์จากโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพื่อเสริมศักยภาพให้โรงพยาบาลขนาดเล็ก ลดความจำเป็นในการเดินทางไปรับการรักษานอกพื้นที่
โครงการนี้ โรงพยาบาลชุมชนจะได้รับการพัฒนาศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยบางโรคที่สามารถรับการดูแลต่อเนื่องใกล้บ้านหลังจากรักษาในโรงพยาบาลใหญ่แล้ว จะช่วยลดการส่งต่อผู้ป่วย (Refer) และทำให้ระบบบริการมีความคล่องตัวมากขึ้น อีกทั้งการใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยเฉพาะบุคลากร จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างโรงพยาบาล ส่งผลให้การส่งต่อผู้ป่วยเป็นไปอย่างราบรื่น
สำนักงานเขตสุขภาพที่ 12 ได้ขับเคลื่อนโครงการ One Region-One Province-One Hospital มาอย่างต่อเนื่อง โดยนำร่องในจังหวัดสงขลาในช่วงสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา และกำหนดจัดกิจกรรม Kick Off ที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อให้ผู้บริหารทุกระดับได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และนำแนวทางไปปรับใช้ในทุกจังหวัดภายใต้ความรับผิดชอบ โดยมีนายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 เป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก
ทั้งนี้ โครงการ One Region-One Province-One Hospital ถือเป็นกลไกสำคัญในการลดความซ้ำซ้อนของทรัพยากร เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการสุขภาพ และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการของประชาชน โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์หลัก 3 ด้าน คือ ลดระยะเวลารอคอย ได้รับบริการใกล้บ้านใกล้ใจ และมีความปลอดภัยสูง ภายใต้การทำงานของ “ทีมสาธารณสุขนราธิวาส”








