นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งที่ 18/2568 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมติดังกล่าวถือว่าได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เนื่องจากมีรัฐมนตรีหลายคนเข้าร่วมประชุม สมช. ด้วย ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลให้การเจรจาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกับฝ่ายกัมพูชา มีอำนาจโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย สำหรับปฏิญญาร่วมที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนามไว้ก่อนหน้านี้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ยังคงอยู่ในกรอบการดำเนินการเดิม เนื่องจากประเทศไทยได้ปฏิบัติตามหลักการสำคัญทั้ง 4 ข้อมาโดยตลอด หากการเจรจาในวันที่ 27 ธันวาคม 2568 สามารถบรรลุข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกันได้ การดำเนินการต่างๆ จะยังอยู่ภายใต้กรอบของปฏิญญาร่วมดังกล่าว
หากทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกัน เอกสารผลลัพธ์จากการประชุมดังกล่าว จะเป็น “ถ้อยแถลงร่วม” (Joint Statement) ซึ่งจะมีสาระสำคัญคือ การหยุดยิงทันที และทั้งสองฝ่ายต้องรักษาคำมั่นสัญญาระหว่างกัน ไม่ให้มีการคุกคามหรือยั่วยุ และลดความเสี่ยงต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ โดยจากข้อมูลที่ได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคง แนวโน้มการเจรจามีทิศทางที่ดี และอาจนำไปสู่ข้อยุติที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้เป้าหมายหลักของไทยคือการรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งฝ่ายกองทัพได้รายงานต่อรัฐบาล และ สมช. แล้วว่า ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายทางการทหาร และควบคุมพื้นที่เป้าหมายตามที่กำหนดไว้ได้ครบถ้วน ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการนำไปเจรจาต่อรองกับฝ่ายกัมพูชา สำหรับถ้อยแถลงร่วมที่อาจจะมีการลงนาม จะยึดตามหลักการ 4 ข้อในปฏิญญาร่วมเดิม ซึ่งรวมถึงความร่วมมือด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามขบวนการหลอกลวงออนไลน์หรือสแกมเมอร์ โดยหากฝ่ายกัมพูชายอมรับเงื่อนไขดังกล่าว ก็อาจมีการพิจารณาแนวทางนำไปสู่การปล่อยตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไทยไม่สามารถบังคับให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรักษาสัญญาได้ แต่สิ่งสำคัญคือประเทศไทยได้บรรลุเป้าหมายในเบื้องต้นแล้ว ทั้งในมิติทางทหารและการประกาศบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งเป็นหลักประกันว่าไทยสามารถใช้เป็นฐานในการเจรจาอย่างมีศักดิ์ศรี พร้อมยืนยันว่า ไทยจะรักษาข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆ อย่างเคร่งครัด และหวังว่าการลงนามครั้งนี้จะนำไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน ประชาชนสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้โดยปลอดภัย และเกิดความสงบสุขในพื้นที่ชายแดน
ขณะที่นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุม สมช. ครั้งนี้ยังได้มีการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ การเยียวยาผู้ประสบภัยจากความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้จ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชน ทหาร ตำรวจ ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และจะได้มีการเสนอเพิ่มกรอบวงเงินการสนับสนุนเงินเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ วงเงิน 577,300,000 บาท
ให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบ ในวันที่ 30 ธันวาคม 2568
ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยกองกำลังบูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 19 ในการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อยึดครองพื้นที่ใน 3 พื้นที่ คือ พื้นที่บ้านคลองแผง อำเภอตาพระยา และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง ฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามเสริมความแข็งแรงของที่มั่น ฝ่ายไทยใช้อาวุธยิงสนับสนุนทำการยิงตอบโต้ตามสถานการณ์เพื่อควบคุมพื้นที่ สถาปนาแนวที่มั่นตั้งรับ และดำรงความมุ่งหมายรักษาที่มั่น ส่วนพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ฝ่ายกัมพูชาเสริมความแข็งแรงของที่มั่น เป็นที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง และใช้อาวุธยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิดมายังฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายไทยใช้อาวุธยิงสนับสนุน ดำเนินกลยุทธ์เข้าตีต่อที่หมาย จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้เป็นที่เรียบร้อย อยู่ระหว่างดำเนินการดัดแปลงที่มั่นตั้งรับ พร้อมต้านการตอบโต้จากข้าศึก นอกจากนี้ กองกำลังบูรพา ได้ปฏิบัติการต่อที่หมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่ฝั่งปอยเปต เพื่อลิดรอนขีดความสามารถและทำลายที่มั่นทางทหารต่างๆ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการโจมตีกลับมายังฝ่ายไทย
ขณะที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 พันตรีหญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ยังมีการปะทะในบางส่วน ที่บริเวณภูมะเขือ และห้วยตามาเรีย ทางกัมพูชายังคงมีการใช้อาวุธโจมตีต่อกำลังทหารไทย แต่กำลังทหารไทยได้มีการตอบโต้ตามสถานการณ์ และสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เช่นเดียวกัน
นาวาเอก นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติสั่งระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงสินค้าที่เป็นปัจจัยสำคัญไปยังประเทศกัมพูชาได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี โดยทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ภาคที่ 1 จัดเรือและอากาศยานลาดตระเวน เฝ้าตรวจติดตามสกัดกั้นเรือที่มีทิศทางเข้าและออกจากประเทศกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันได้ตรวจพบเรือสัญชาติไทยที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าพยายามลักลอบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยย้ำว่ายิ่งสามารถจำกัดและบีบบังคับกัมพูชาในเรื่องของยุทธปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำมาใช้โจมตีไทยได้มากเท่าใด การสู้รบจะยิ่งจบได้เร็ว และเป็นการปกป้องชีวิตทหารได้มากที่สุด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการและเจ้าของเรือไทย หยุดส่งน้ำมันให้กัมพูชาเพื่อให้กัมพูชาหมดขีดความสามารถในการรบ
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ประณาม กรณีที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ เป็นรายที่ 9 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ระหว่างที่สองฝ่ายอยู่ระหว่างการหารือขั้นตอนที่จะนำไปสู่การหยุดยิงและสันติภาพ โดยย้ำว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญของฝ่ายไทย เนื่องจากทุ่นระเบิดเป็นอาวุธที่ไม่มีเป้าหมาย ไร้มนุษยธรรม ส่งผลกระทบต่อทางทหารและพลเรือนทั้งสองฝ่าย กระทรวงการต่างประเทศจะรวบรวมหลักฐานในกรณีนี้ และประท้วงไปยังฝ่ายกัมพูชา และจะส่งหลักฐานข้อมูลไปที่ประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 23 รวมถึงเลขาธิการสหประชาชาติด้วย
ขณะที่ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า การที่ฝ่ายกัมพูชาละเมิดกติกาสากล โดยใช้ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ เป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร สะสมอาวุธ รวมถึงวางทุ่นระเบิด ทำให้ปราสาทตาควาย ได้รับความเสียหายนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ควรมีโบราณสถานใดในโลกนี้ ต้องถูกทำลายเพราะสงคราม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าด้วยความสามารถของกรมศิลปากร และเทคโนโลยีปัจจุบัน สามารถบูรณะโบราณสถานที่เสียหายได้อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่เคยบูรณะพระธาตุพนม ที่จังหวัดนครพนม จากภัยธรรมชาติ แต่การที่จะบูรณะปราสาทตาควายได้นั้น มีข้อจำกัด คือ กรมศิลปากรไม่มีอำนาจในการบูรณะโบราณสถานนอกประเทศ เพราะฉะนั้นจะบูรณะปราสาทตาควายได้ต่อเมื่อ ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในอาณาจักรไทย โดยมีเทคโนโลยีเฉพาะการบูรณะโบราณสถาน สามารถบูรณะโบราณสถานที่เสียหายให้กลับมาสู่สภาพเดิมได้ แต่เราไม่มีเทคโนโลยีในการชุบชีวิตคน จึงอยากให้แยกความสูญเสียว่า ความสูญเสียที่กอบกู้ได้คือโบราณสถาน แต่ความสูญเสียที่ไม่อาจจะกอบกู้ได้คือชีวิตทหารหาญที่ต้องเสียไป จึงหวังว่าการสู้รบระหว่างทั้ง 2 ประเทศจะสิ้นสุดลงโดยเร็ว ทั้งนี้หากปฏิบัติการของทหารสิ้นสุดเมื่อไหร่ กรมศิลปากรสามารถเริ่มต้นบูรณะโบราณสถานได้ทันที โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบนโยบายให้กรมศิลปากรสำรวจโบราณสถานตามแนวชายแดนทั้งหมด ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง พร้อมระบุว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดความตื่นตัวในการรักษาและบูรณะโบราณสถานของชาติเอาไว้
สำหรับการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ออกชุดมาตรการเฉพาะกิจ ประกาศยกหนี้ปิดบัญชีสินเชื่อเป็นกรณีพิเศษ แก่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และกำลังพลหน่วยอื่นๆ ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา โดยการยกหนี้ยังครอบคลุมถึงบัญชีสินเชื่อของทายาท 3 ลำดับ ได้แก่ บิดามารดา คู่สมรส และบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงการมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิต ตลอดจนกำลังพลและพลเรือนที่บาดเจ็บจากการสู้รบ เพื่อเชิดชูเกียรติที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ และเป็นขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ด้านความช่วยเหลือสำหรับผู้อพยพที่ต้องได้รับผลกระทบเพราะเข้าพื้นที่ทำมาหากินไม่ได้ เป็นเหตุให้ต้องขาดรายได้ในช่วงเวลานี้ ธนาคารได้ออกมาตรการพักหนี้โดยให้พักชำระเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้สินเชื่อธนาคารออมสินทุกประเภท ครอบคลุมสินเชื่อองค์กรชุมชน ที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ภัยพิบัติตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้เริ่มพักชำระหนี้งวดแรกหลังจากได้รับอนุมัติ เป็นระยะเวลา 3 งวด/เดือน และไม่ถือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ให้คงชั้นหนี้เดิมก่อนเข้าร่วมมาตรการ โดยธนาคารจะยกดอกเบี้ยให้ทั้งหมด ส่วนเงินต้นที่พักไว้ 3 งวด จะถูกรวมไปชำระในงวดสุดท้าย ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลาให้ลูกหนี้กลับมาชำระเงินงวดตามเงื่อนไขสัญญาเดิม ในกรณีสัญญาครบกำหนด แต่ไม่อาจชำระหนี้เงินต้นส่วนที่พักไว้ได้ ลูกหนี้สามารถติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ในภายหลัง โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือที่ศูนย์พักพิงของจังหวัดซึ่งธนาคารได้จัดทีมงานเข้าไปอำนวยความสะดวกให้ด้วย และทางแอปพลิเคชัน MyMo ภายในวันที่ 31 มกราคม 2569
นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมายังมีการปะทะในพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ และสระแก้ว ส่งผลให้โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเพิ่งกลับมาเปิดบริการเฉพาะฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ต้องปิดให้บริการทุกกรณีอีกครั้ง รวมสถานพยาบาลปิดบริการ 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โรงพยาบาลกาบเชิง โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์ โรงพยาบาลบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ โรงพยาบาลตาพระยา โรงพยาบาลโคกสูง โรงพยาบาลคลองหาด โรงพยาบาลอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้รับผลกระทบ 240 แห่ง เปิดบริการปกติ 99 แห่ง เปิดบริการบางส่วน 11 แห่ง ยังคงปิดบริการ 130 แห่ง ทั้งนี้ เขตสุขภาพที่ 6 รายงานว่า พบการระบาดของเหาในศูนย์พักพิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของศูนย์อนามัยได้เข้าจัดการและสนับสนุนยากำจัดเหาแล้ว ขณะที่เขตสุขภาพที่ 10 มีการจัดรถ ANC Mobile บริการฝากครรภ์เคลื่อนที่ เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ภายในศูนย์พักพิง ได้รับการดูแลครรภ์อย่างต่อเนื่อง








