พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมพิธีเผาทำลายยาเสพติดของกลาง ณ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ประกอบด้วย ยาบ้า 145 ล้านเม็ด ไอซ์ 7.56 ตัน เฮโรอีน 504.82 กิโลกรัม คีตามีน 1,472.44 กิโลกรัม โคเคน 5.99 กิโลกรัม ยาอี 8.42 กิโลกรัม สารผสม (Happy water) 8.97 กิโลกรัม และยาเสพติดประเภทอื่นๆ รวมน้ำหนักสุทธิ 23.08 ตัน และน้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มกว่า 27.51 ตัน จาก 151 คดี ซึ่งเป็นผลจากการจับกุมทั่วประเทศในช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2567 โดยยาเสพติดทั้งหมดได้รับการตรวจพิสูจน์จากสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และได้รับอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว เพื่อยืนยันชนิดและปริมาณก่อนทำลาย
ทั้งนี้ เป็นผลจากการปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น ในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนว่ายาเสพติดเหล่านี้ถูกทำลายทิ้งอย่างสิ้นเชิง โดยมีพลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วยสักขีพยานในพิธีเผาทำลายยาเสพติด ประกอบด้วย นักกีฬาทีมชาติไทยอย่าง นายลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย นายกิตติพงษ์ ปลื้มปรีดาพร นักกีฬาโววีนัม (เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวจากเวียดนาม ) ทีมชาติไทย นักแสดง นักกีฬาฟุตซอลทีมชาติไทย และคณะผู้แทนเยาวชนอาเซียนและนานาชาติ จาก 9 ประเทศ จำนวน 55 คน ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐประชาชนจีน และไทย
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า การเผายาเสพติดในครั้งนี้มีเจตนาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และแสดงให้เห็นว่าเราทุกคนร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติด สิ่งที่เห็นได้ชัดในวันนี้คือ รัฐบาลได้ดำเนินการเผายาเสพติดไปแล้ว 7 ครั้งต่อปี หรือเฉลี่ยมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน ซึ่งถือเป็นจำนวนมาก สำหรับครั้งนี้มีปริมาณยาเสพติดที่เผาทำลายประมาณ 27 ตัน ยาเสพติดที่ระบาดในปัจจุบันกว่าร้อยละ 60 เป็นยาบ้า ส่วนที่เหลือเป็นไอซ์ เฮโรอีน และอื่นๆ โดยยาบ้าส่วนใหญ่มุ่งตรงสู่ประเทศไทย ในขณะที่ไอซ์ถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นทั้งประเทศทางผ่านและประเทศปลายทางของยาเสพติด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ คือ ประชาชนคนไทยติดยาเสพติด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เราจึงจำเป็นต้องมีมาตรการต่างๆ รวมถึงการพัฒนาคนเพื่อป้องกันการติดยาเสพติด ตัวเลขผู้ต้องราชทัณฑ์ในเรือนจำของประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่าร้อยละ 77 เป็นคดียาเสพติด ถือเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ถูกคุมประพฤติอีกจำนวนหนึ่งด้วย การเผายาเสพติดในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความโปร่งใสในการแก้ไขปัญหายาเสพติด การเผายาเสพติดในครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศไทยมีความมุ่งมั่นและจริงจังในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตั้งแต่ปี 2566 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ทำลายยาเสพติดของกลางไปแล้วกว่า 133.12 ตัน รวมยาบ้า 966 ล้านเม็ด จาก 648 คดี และหลังเสร็จสิ้นพิธีเผาทำลาย คณะทำงานจะตรวจสอบความเรียบร้อย และเก็บตัวอย่างขี้เถ้าส่งตรวจพิสูจน์ เพื่อยืนยันว่ายาเสพติดของกลางทั้งหมดถูกทำลายโดยสมบูรณ์และไม่กลับเข้าสู่สังคมอีก
